ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงผ่านหลอดอาหาร (TEE) วินิจฉัยโรคหัวใจ
ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ
บทความโดย : นพ. ธิปกร ผังเมืองดี
ความผิดปกติหัวใจมักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น การตรวจสุขภาพประจำปีหรือการตรวจสุขภาพหัวใจจะช่วยให้พบปัญหาและแนวโน้มที่อาจเป็นอันตรายในอนาคตได้ โดยหนึ่งในวิธีการตรวจที่มีประสิทธิภาพ คือ การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echo) ผ่านทางผนังหน้าอก แต่ในกรณีที่ไม่สามารถให้ภาพที่ดีพอได้ หรือไม่สามารถได้ข้อมูลมากพอในการวินิจฉัยโรค การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางหลอดอาหาร (Transesophageal Echocardiography: TEE) สามารถทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของหัวใจด้านหลังได้ชัดกว่า
สารบัญ
ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงผ่านหลอดอาหารเป็นอย่างไร
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางหลอดอาหาร (Transesophageal Echocardiography: TEE) เป็นการตรวจหัวใจจากด้านในของทางเดินอาหาร การทำ Echocardiogram โดยการสอดกล้องทางปากสู่หลอดอาหาร ซึ่งเป็นการตรวจเพื่อบันทึกภาพของหัวใจจากด้านในของทางเดินอาหาร เนื่องจากทางเดินอาหารอยู่ด้านหลังของหัวใจ ทำให้การตรวจวิธีนี้สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของหัวใจด้านหลังได้ชัดกว่าการตรวจด้วยวิธี Echo ผ่านทางผนังหน้าอกด้านนอก เนื่องจากเครื่องมืออยู่ใกล้หัวใจ และไม่มีปอด และส่วนของกระดูกมาบัง
ข้อบ่งชี้ในการตรวจ TEE
ตรวจในกรณีที่สงสัยว่าผู้ป่วยมีโรคที่ส่วนด้านหลังหัวใจหรือส่วนที่อยู่ติดกับหลอดอาหาร ซึ่งการตรวจด้วยวิธี Echo ผ่านทางผนังหน้าอก แล้วให้ผลไม่ชัดเจน เช่น ในผู้ที่อ้วนหรือผนังหน้าอกหนามาก เป็นต้น
ประโยชน์ของการตรวจ TEE
- สามารถประเมินโครงสร้างภายในของหัวใจและเส้นทางเดินของเลือดในโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- สามารถตรวจหัวใจในระหว่างผ่าตัดเพื่อประเมินผลของวิธีการรักษา เช่น การแก้ไขภาวะความพิการทางหัวใจแต่กำเนิด
- สามารถตรวจสภาวะบางอย่างของหัวใจได้ เช่น โรคลิ้นหัวใจระหว่างห้องซ้ายบนและล่าง ตรวจหาลิ่มเลือดหรือก้อนเลือดภายในหัวใจที่มีการฉีกขาดของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่
- สามารถตรวจลิ้นหัวใจเทียมฝังอยู่ในหัวใจ
- สามารถตรวจหาเนื้องอกที่หัวใจห้องบน
- สามารถตรวจหาลิ่มเลือดในหัวใจห้องบน
- สามารถตรวจประเมินหาลิ่มเลือดก่อนการรักษาด้วยวิธีช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้า หรือวิธีจี้หัวใจ
เตรียมตัวก่อนตรวจได้อย่างไร
- งดอาหาร และน้ำอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงก่อนตรวจ
- อาจมีความจำเป็นต้องหยุดยาละลายลิ่มเลือด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
- ท่านที่มีฟันปลอม ต้องเอาออกก่อน
ขั้นตอนตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางหลอดอาหาร์
- ผู้ป่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พร้อมสำหรับการตรวจ หากสวมใส่ฟันปลอมต้องถอดออกก่อน
- พยาบาลจะให้อมยาชาประมาณ 20 นาที แล้วจึงให้กลืนยา หลังจากนั้นอาจพ่นยาชาที่คอ หรือให้ยาคลายวิตกกังวล และให้ออกซิเจนร่วมด้วย
- ผู้ป่วยจะนอนอยู่ในท่าตะแคง
- จากนั้นแพทย์จะค่อยๆ สอดท่อที่มีหัวตรวจเข้าทางปากจนถึงระดับที่ต้องการ
- ระหว่างการตรวจ จะมีการวัดชีพจร ความดันโลหิต และการหายใจ อยู่ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- การตรวจใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
หลังการตรวจ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำร้อน-เย็นจัด จนกว่ายาชาจะหมดฤทธิ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- หากมีอาการผิดปกติหลังการตรวจ เช่น เจ็บคอ เลือดออก หายใจลำบาก ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
ข้อจำกัดในการตรวจ
- ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านหลอดอาหาร เช่น มีภาวะเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร มีภาวะอุดกั้นหลอดอาหาร หรือเคยฉายรังสีรักษาบริเวณหลอดอาหาร จะได้รับการประเมินโดยแพทย์ก่อนเข้ารับการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางหลอดอาหาร
อย่างไรก็ตามการเข้ารับการตรวจสุขภาพหัวใจนั้นเมื่อพบความเสี่ยงตั้งแต่ในระยะแรก แพทย์จะได้วางแนวทางการป้องกันได้อย่างทันที หรือหากตรวจพบความผิดปกติที่จะต้องได้รับการรักษา โอกาสหายและดีขึ้นได้ก็จะมีมากกว่าการตรวจพบเมื่ออาการลุกลามไปมากแล้ว
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์หัวใจ